วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

พุดตาน

พุดตาน


ชื่อวิทยาศาสตร์  Hibiscus mutabilis  L.
ชื่อสามัญ :  Cotton rose, Confederate rose
วงศ์  Malvaceae
ชื่ออื่น :  ดอกสามสี  สามผิว (ภาคเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูงประมาณ 5 เมตร  ต้นและกิ่งมีขนสีเทา  ใบ เดี่ยว ออกสลับ รูปไข่โคนรูปหัวใจ ปลายแหลม  ขอบใบเว้าลึก มี 3- 5 แฉก  ใบมีขนสาก  ดอก  ซ้อนใหญ่งามมาก แรกบานมีสีขาว แล้วเปลี่ยนเป็นสีชมพูและแดง  ออกตามซอกใบและปลายกิ่ง  มีริ้วประดับ 7- 10 อัน  ผล กลม  เมื่อแก่แตกเป็น 5 แฉก  เมล็ด รูปไต มีขน ออกดอกตลอดปี
ส่วนที่ใช้ : ใบสด หรือใบตากแห้ง ดอก เก็บดอกตอนเริ่มบานเต็มที่ รากเก็บได้ตลอดปี ตากแห้งหรือใช้สดก็ได้
สรรพคุณ :
  • ยารักษาคางทูม
  • ยาถอนพิษ รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลมีหนอง
  • ยาแก้งูสวัด
วิธีและปริมาณที่ใช้
  • ยารักษาคางทูม
  • - ใช้ใบแห้ง 10-15 ใบ บดให้ละเอียด เติมไข่ขาวผสมให้เข้ากัน เพื่อให้ยาจับกันเป็นแผ่น นำไปพอกปิดบริเวณที่บวมเป็นคางทูม เปลี่ยนยาวันละ 2 ครั้ง จนกว่าจะหายบวม
  • - ใช้ดอก อย่างแห้ง หนัก 3-12 กรัม ใบสด 30-40 กรัม ต้มน้ำรับประทาน ใช้ภายนอก บดเป็นผงผสม หรือใช้สดตำพอก
  • ยาดถอนพิษ รักษาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ แผลมีหนอง
  • - ใช้ใบสด 3-4 ใบ ล้างน้ำให้สะอาด ตำให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำมันพืช ใช้ทาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ แผลมีหนอง
  • ยาแก้งูสวัด
  • - ใช้ใบสด 4-5 ใบ ล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียด เติมน้ำซาวข้าว ใช้ทาบริเวณที่เป็น ทาบ่อยๆ
  • - รากใช้เป็นยาทาภายนอก ตำพอกหรือบดเป็นผงผสมพอก
สารเคมี
  • ใบ มี Flavonoid glycosides , phenol, amino acid, tannin
  • ดอก มี  Flavonoid glycosides
  •  Flavonoid glycosides จะมีปริมาณเปลี่ยนไปตามสีของดอกไม้เมื่อบานเต็มที่ สีแดงจะมี anthocyanin ในตอนที่ดอกมีสีแดงเข้ม จะมีปริมาณของ  anthocyanin เป็น 3 เท่าของตอนที่มีดอกเป็นสีชมพู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น